วัดเซนโคจิ

แสงแห่งศรัทธาในเมืองนากาโน่

วัดเซนโคจิ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของนากาโน่ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่น ในฐานะที่เป็นวัดพุทธเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 7 (หรือราว1,400ปีก่อน) และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์แรกที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นวัดที่ไม่แบ่งแยกชนชั้น,นิกายและไม่จำกัดความศรัทธาของสตรีในพุทธศาสนา วัดเซนโคจิจึงเป็นสถานที่ที่ดึงดูดสาธุชนผู้เลื่อมใสจากทั่วสารทิศในประเทศญี่ปุ่น จนมีคำกล่าวโบราณของญี่ปุ่นที่ว่า เป็นวัดที่“ ต้องไปให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต”

อารามหลักอันอลังการ

อารามหลักอันอลังการ

อารามหลักของวัดเซนโคจิได้รับการสร้างใหม่ในช่วงกลางสมัยเอโดะ เป็นอารามไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตะวันออก ภายในตกแต่งประณีตงดงาม เคร่งขรึมแต่โอ่อ่าน่าเลื่อมใส ลึกเข้าไปด้านใน บนกรอบวงกบด้านบนมีรูปพระผู้มารับวิญญาณ25องค์และแท่นบูชาซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระประธานที่สวยงามตระการตา เมื่อสักการะพระพุทธรูปจนอิ่มเอมใจกันแล้ว ขอแนะนำให้ท่านเดินลงไปชั้นใต้อาคารหลักเพื่อนำไปสู่เส้นทางที่มืดมาก (มืดยิ่งกว่าหลับตา) เวลาเดินต้องใช้มือคลำไปตามผนัง ระหว่างทางจะมีสลักประตู ที่ได้รับการขนานามว่าเป็น “กุญแจสู่สวรรค์” “key to paradise” หากคลำพบกุญแจนี้ ว่ากันว่าจะสามารถไปสู่สวรรค์ได้

ทางเดินจะสิ้นสุดลงทางอีกฝั่งหนึ่งของห้องโถง ทางฝั่งเหนือของโถงกลางมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของวัดเซนโคจิ จัดแสดงพระพุทธรูปและเอะมะเก่าแก่หลายชิ้น รวมถึงรูปสลักของ100 สาวกราคัง(Rakan)

หออารามหลักนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ และมีสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญถูกเก็บรักษาอยู่มากมาย เช่น ประตูซันมง, หอพระคัมภีร์, ประตูนีโอมอน เป็นต้น

ค่าเข้าสักการะ: 500เยน (ห้องภายใน, ทางใต้ดิน, และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์)
เวลาเปิด : 5:30 น.~16:30 น.(อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)

หมายเหตุ : ที่ลานด้านหน้าอารามหลัก คุณจะได้พบกับร้านขายเครื่องรางของวัดหรือที่เรียกว่า”โอมาโมริ” ซึ่งมีหลากหลายตามความจำเป็นของผู้ซื้อ เช่น เครื่องรางเพื่อป้องกันอันตรายในการเดินทาง เครื่องรางเพื่อให้สอบผ่าน เครื่องรางให้สมหวังในความรัก หรือเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง นักท่องเที่ยวไทยนิยมซื้อหาเป็นของฝากให้แก่ญาติมิตรทางบ้าน

พิธีเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ6ปี : เซนโคจิโกไคโจ

พระประธานหลักซึ่งประดิษฐานในวัดเซนโคจินั้นว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรกในประเทศญี่ปุ่น มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม พระประธานหลักองค์นี้ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นพระพุทธรูปลับอย่างเด็ดขาด (เซตไตฮิบุสึ) ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชนนานเป็นพันปี ภายหลังจึงมีการสร้างพระพุทธรูปองค์จำลองที่เหมือนองค์จริงทุกอย่างเรียกว่า “มาเอดะจิ ฮงซอน” (Maedachi Honzon) ขึ้นเพื่อให้สาธารณชนได้สักการบูชาในพิธีใหญ่ที่จัดขึ้นทุกๆ6ปี (หรือ7ตามการคำนวณเวลาแบบญี่ปุ่น) คืองาน “เซนโคจิ โกไคโจ” โดยในช่วงเวลาประมาณ2เดือนของงานพิธีอันศักดิ์สิทธินี้จะมีผู้คนหลั่งไหลมาวัดเซนโคจิมากกว่า7ล้านคนเลยทีเดียว (ครั้งต่อไปกำหนดจัดในปี ค.ศ.2021)

พระพุทธรูปปางมารวิชัย สายสัมพันธ์ไทย-นากาโน่

นอกจากวัดเซนโคจิจะมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแล้ว วัดเซนโคจิยังมีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่นด้วย เนื่องจากในปี ค.ศ.1937ประเทศไทยได้มอบพระพุทธรูปปางมารวิชัยให้แก่ประเทศญี่ปุ่นเนื่องในโอกาสครบรอบ50ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยญี่ปุ่น โดยได้นำมาประดิษฐานที่วัดเซนโคจิแห่งนี้ และได้กลายมาเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของคนไทยในนากาโน่มาจนถึงปัจจุบัน

ถนนหน้าวัด :โอโมเทะซังโด

โอโมเทะซังโด

เมืองนากาโน่ เป็นเมืองที่พัฒนาขึ้นโดยมีวัดเซนโคจิเป็นศูนย์กลาง แม้ในปัจจุบัน ความเจริญรุ่งเรืองที่แผ่ขยายออกมาจากวัดก็ยังหลงเหลือให้เห็นจากบรรยากาศคึกคักรื่นรมย์บนถนนหน้าวัด ที่ตลอดสายเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและขนมอร่อย ร้านของฝากของที่ระลึกมากมาย มีร้านขายสินค้าท้องถิ่น รวมถึงคาเฟ่เก๋ๆให้นั่งเล่นเย็นใจ นอกจากนี้บริเวณถนนหน้าวัดยังเป็นสถานที่จัดเทศกาลประจำปีหลายงาน เช่น งานทศกาลโคมไฟ (นากาโน่โทเมียวมัตสึริ), งานเทศกาลดอกไม้ (ฮานะไคโร) และอื่นๆอีกมากมาย

การเดินทาง

โดยรถโดยสารสาธารณะ

นั่งรถไฟชินกังเซน(รถไฟหัวกระสุน)จากโตเกียวมายังสถานีนากาโน่ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง จากสถานีนากาโน่ ต่อรถบัส(ป้ายรถบัสหมายเลข1)ที่ทางออกฝั่งประตูเซนโคจิ มาลงที่ป้ายเซนโคจิไดมอน(ใช้เวลา10นาที ค่าโดยสาร150เยน) หรือถ้าต้องการเดินชมเมืองไปด้วยก็สามารถเดินจากสถานีถึงวัดได้ ใช้เวลาประมาณ30นาที

โดยทางรถยนต์

จากจุดลงทางด่วนนากาโน่(Nagano IC)หรือจุดลงทางด่วนซูซากะนากาโน่ฮิงาชิ (Suzaka-Nagano-Higashi IC) ไปวัดเซนโคจิ ใช้เวลาประมาณ40นาที

Update:2020/05/27

Recommended articles

Share this experience

LINE
Twitter
Facebook