15 สถานที่น่าเที่ยวที่สุดในจังหวัด Nagano

เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติของจังหวัด Nagano ที่อุทยานแห่งชาติ, สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และออนเซ็นมากมาย

หากคุณกำลังต้องการท่องเที่ยวในเขตชนบทของญี่ปุ่น แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? Nagano คือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด

จังหวัด Nagano เดินทางได้ง่ายจากทั้ง Tokyo, Nagoya และเมืองใหญ่อื่น ๆ เป็นประตูสู่ชนบทและภูเขาตระหง่านของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น

นี่คือสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว 15 แห่งของจังหวัด Nagano ที่เราอยากแนะนำ

1. สวนลิง Jigokudani Yaen-Koen

"ลิงหิมะ" แสนน่ารักกำลังแช่น้ำร้อนที่ Jigokudani

ในหุบเขา Jigokudani เหนือเมืองออนเซ็น Yamanouchi คุณจะพบไอน้ำร้อนจากพื้นดิน และฝูงลิงหิมะญี่ปุ่นที่รักออนเซ็น.

ว่ากันว่าลิงค้นพบการอาบออนเซ็นครั้งแรกหลังจากเห็นผู้ชายอาบน้ำในบ่อน้ำกลางแจ้งที่โรงแรม Korakukan หลังจากที่ชาวบ้านละแวกนั้นได้เห็นลิงแช่น้ำร้อนแล้ว พวกเขาจึงสร้างบ่อออนเซ็นสำหรับลิงโดยเฉพาะ

เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่สวนสัตว์ จึงไม่มีรั้วกั้นระหว่างนักท่องเที่ยวกับลิงหิมะ คุณจึงสามารถดูลิงหิมะที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ดูพวกมันแช่ตัวในบ่อออนเซ็นและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัว

2. ปราสาท Matsumoto

ปราสาท Matsumoto จะดูสวยงามเป็นพิเศษเมื่อล้อมรอบด้วยดอกซากุระในช่วงกลางเดือนเมษายน

ปราสาท Matsumoto เป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมที่เหลืออยู่ไม่กี่แห่งของญี่ปุ่น เป็นสมบัติชาติและเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Matsumoto

ตัวปราสาทด้านนอกเป็นสีขาว-ดำตัดกันอย่างสวยงามกับเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ในยามสงคราม, ปืนไรเฟิลและอาวุธที่ยังคงอยู่มากมายจากยุคสงครามระหว่างแคว้น คุณสามารถปีนขึ้นไปด้านบนปราสาทด้วยบันไดแคบ ๆ และสูงชัน หรือน่าจะเรียกว่าเป็นบันไดลิงเสียมากกว่า แล้วคุณก็จะได้ชมวิวเมือง Matsumoto จากด้านบน

บริเวณรอบปราสาท คุณจะพบกับ Jokamachi ถนนที่เมืองรอบปราสาทอันเก่าแก่นี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ทั้งยังมีคาเฟ่ ร้านค้าและร้านอาหารอีกด้วย

3. วัด Zenkoji

วิหารหลักของวัด Zenkoji

วัด Zenkoji เป็นสมบัติแห่งชาติที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,400 ปี

พระพุทธรูปองค์แรกที่นำมาจากอินเดียมาที่ญี่ปุ่นถูกนำมาประดิษฐานอยู่ที่นี่ ทำให้วัดนี้เป็นจุดแสวงบุญที่สำคัญสำหรับชาวพุทธในญี่ปุ่น กล่าวกันว่าทุกคนควรไปเยี่ยมชมวัด Zenkoji ให้ได้สักครั้งในชีวิต

มีที่พัก 39 แห่งรอบ ๆ วัดซึ่งผู้แสวงบุญจะมาพักหลังจากการเดินทางอันยาวนาน นักท่องเที่ยวก็สามารถพักที่นี่ได้เช่นกัน รวมถึงมีกิจกรรมที่เปิดให้สัมผัส ประสบการณ์การนั่งทำสมาธิ ฝึกหัดคัดลอกพระสูตร และอีกมากมาย

4. Kamikochi

ทิวเทือกเขา Hotaka ที่มองเห็นได้จากบึง Taisho ใน Kamikochi

Kamikochi ตั้งอยู่ที่บริเวณฐานของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ เป็นสถานที่ที่มีแอ่งน้ำอันงดงามที่มีน้ำใสดุจคริสตัลและป่าไม้เขียวขจี ทิวทัศน์ของทิวเทือกเขา Hotaka นั้นยิ่งใหญ่งดงามมาดเมื่อมองจากสะพาน Kappa ที่ตั้งอยู่ใจกลาง Kamikochi และกลายเป็นสถานที่พิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบธรรมชาติชาวญี่ปุ่น รวมไปถึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก

มีเส้นทางเดินเท้าเลียบแม่น้ำ Azusa ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่จะพาคุณไปยังสถานที่ที่สวยงามหลายแห่งรอบ ๆ แอ่ง และคุณยังสามารถมุ่งหน้าไปยังภูเขาจาก Kamikochi ได้ เลือกท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับไปยังภูเขาเล็ก ๆ หรือเดินป่าหลายวันไปยังยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ก็ได้เช่นกัน

5. เมืองเก่าตามเส้นทาง Nakasendo

นักท่องเที่ยวเดินไปตามถนนสายหลักของ Narai-juku

เส้นทาง Nakasendo มีความยาว 534 กิโลเมตรที่เชื่อมระหว่าง Kyoto และ Tokyo สร้างขึ้นในสมัย Edo (ค.ศ. 1603 - 1868) เป็นหนึ่งในเส้นทางที่ยาวที่สุดแต่ปลอดภัยที่สุดในการเดินทางระหว่างเมืองหลวงเก่าและเมืองหลวงใหม่

ที่นี่เป็นเส้นทางสายหลัก 1 ใน 5 สายที่ก่อตั้งขึ้นในสมัยนั้น แต่เส้นทางส่วนใหญ่ของ Nakasendo ยังคงสภาพเดิมไว้ได้ซึ่งแตกต่างจากเส้นทางสายอื่น ๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย เมื่อหลายร้อยปีก่อน เส้นทางนี้และเมืองนี้เคยเป็นที่พักทางของเหล่านักเดินทางอย่างไรปัจจุบันก็ยังสามารถเห็นสภาพแบบเดิมได้ในปัจจุบัน

Magome, Tsumago และ Narai เป็นเมืองหลักที่ได้รับการอนุรักษ์และได้รับความนิยมมากในการท่องเที่ยว เดินท่ามกลางทิวทัศน์เมืองโบราณไปตามถนนสายเก่าที่เชื่อมต่อกัน และสัมผัสประสบการณ์ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นได้ที่นี้

6. Togakushi

ประตู Zuishinmon ที่อยู่ในป่า Togakushi

พื้นที่บริเวณนี้มีความเชื่อมโยงกับตำนานของศาสนาชินโต เป็นที่อยู่ของนักบวชบนภูเขามานานแล้ว ศาลเจ้าชินโต 5 แห่งถูกสร้างขึ้นที่นี่ และเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางที่มุงหน้าสู่เชิงเขา Togakushi

ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือศาลเจ้า Okusha เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ด้านในสุด ซึ่งใช้เวลาเดิน 40 นาที ไปตามป่าเขา และสิ่งที่น่าประทับใจกว่าตัวศาลเจ้าคือทัศนียภาพระหว่างทาง เมื่อถึงกลางทางที่ผ่านประตูหลังคามุงจาก จะพบกับต้นไม้สูงอายุ 400 ปี ตั้งตระหง่านอยู่ ดูเหมือนว่ารอบ ๆ ศาลเจ้าชินโตจะมีธรรมชาติที่สมบูรณ์อยู่มากมาย และพื้นที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณ

ต้นสนซีดาร์สูงใหญ่สองข้างทางระหว่างไปศาลเจ้า Okusha

เนื่องจากพื้นที่ห่างไกลและไม่มีหมู่บ้าน ทำให้ Togakushi เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนินจา พิพิธภัณฑ์นินจา Togakure Ninpo Museum ตั้งอยู่ตรงข้ามทางเข้าศาลเจ้า Okusha อุทิศให้กับประวัติศาสตร์ของพื้นที่และจัดแสดงเครื่องมือมากมายที่นินจาใช้ในการทำงาน

7. Bessho Onsen

เจดีย์สามชั้นของวัด Anrakuji หนึ่งในที่ท่องเที่ยวลึกลับของ Bessho

Bessho Onsen เป็นหมู่บ้านออนเซ็นเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถชมวิวนาข้าวกว้างใหญ่ได้ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของวัดที่สวยงามหลายแห่งและเป็นสมบัติแห่งชาติที่อยู่ใน Nagano หมู่บ้านนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "Little Kamakura"

Bessho เป็นสถานที่พักผ่อนและใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ พักที่ออนเซ็นเรียวกัง แช่ตัวในบ่ออาบน้ำ และเดินไปรอบ ๆ เมืองเพื่อชมวัดโบราณของ Kitamuki Kannon และ Anrakuji

แวะชื่นชมกลิ่นหอมของกุหลาบในแบบ Bessho โดยการแช่ตัวในบ่อ Sotoyu (บ่อสาธารณะ) หรือชิมน้ำแร่ออนเซ็นที่พุ่งออกมาจากน้ำพุรูปมังกร

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับออนเซ็น

มองหาแหล่งออนเซ็นอื่น ๆ ใน Nagano
เรียนรู้เกี่ยวกับมารยาทการแช่ออนเซ็น

8. ไร่ Daio Wasabi Farm

ไร่วาซาบิที่ใช้น้ำจากภูเขาเย็นยะเยือกในฤดูใบไม้ผลิ

วาซาบิไม่สามารถปลูกได้ทุกที่ ต้องใช้น้ำสะอาด เย็น และไหลต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ ต้องขอบคุณหิมะที่ละลายจากเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น Daio Wasabi Farm จึงผลิตวาซาบิได้มากมาย และเป็นหนึ่งในไร่วาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

ที่ไร่ คุณสามารถลองชิมวาซาบิสด ๆ และขนมรสวาซาบิได้ เช่น มันบดโครอกเกะ, ไอศกรีม และแม้กระทั่งเบียร์ก็มีให้ลองชิม คุณจะประหลาดใจกับรสชาติอันละเอียดอ่อนของวาซาบิที่สดใหม่ ซึ่งเผ็ดน้อยกว่าหลอดสีเขียวที่ผสมสารกันบูดที่พบเห็นได้ในในซูเปอร์มาร์เก็ตมาก

9. หุบเขา Hakuba

บรรยากาศฤดูใบไม้ผลิอันงดงามของ Hakuba ที่สวน Oide

ที่เชิงเขาแอลป์ญี่ปุ่น หุบเขา Hakuba เป็นหนึ่งในพื้นที่รีสอร์ทบนภูเขาชั้นนำของญี่ปุ่น เคยเป็นหนึ่งในสนามสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องหิมะที่นุ่มราวกับผงแป้ง และสกีรีสอร์ทที่มีทิวทัศน์สวยงาม

แต่การท่องเที่ยวก็ไม่ได้มีแค่เฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น เพราะที่นี่เป็นสถานที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งซึ่งสามารถทำได้ตลอดทั้งปี คุณจะได้ปั่นจักรยานเสือภูเขาตามเส้นทางในหุบเขาหรือตามเส้นทางลงเขา ไต่ไปตามผาของลำธาร หรือแม้แต่ร่อนพาราไกลด์บนท้องฟ้าก็ยังได้

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวิวภูเขา เราแนะนำให้ไปที่บึง Happo หรือไปที่ Hakuba Mountain Harbor.

10. Karuizawa

น้ำตก Shiraito ใจกลางป่าของ Karuizawa

บ้านพักตากอากาศที่แสนสดชื่นบนภูเขาทางทิศตะวันออกของ Nagano และอยู่ห่างจาก Tokyo เพียง 60 นาที Karuizawa เป็นสถานที่หนีความร้อนของฤดูร้อนได้อย่างดีเยี่ยม

Karuizawa เป็นพื้นที่ที่มีความสมดุลระหว่างสไตล์, ความสะดวกสบายแบบเมืองหลวง มาพร้อมกับอากาศบริสุทธิ์และความเขียวขจีของชนบทเข้าไว้ด้วยกัน Karuizawa Prince Shopping Plaza รวบรวมแนวคิดนี้และนำเอาร้านค้ากว่า 220 มารวมกันบนทุ่งหญ้าสีเขียว ผืนน้ำที่สงบนิ่ง แหล่งชอปปิ้งอื่น ๆ ของ Karuizawa ได้แก่ Kyu-karuizawa Ginza และ Harunire Terrace ก็ตั้งอยู่ที่ป่าตรงเชิงเขา

ห่างออกไป น้ำตก Shiraito เป็นสถานที่สำหรับผู้รักธรรมชาติต้องไม่พลาด น้ำตกความสูงไม่มากแต่สง่างามแห่งนี้มีส่วนโค้งยาว 70 เมตร ไหลเหมือนเส้นไหมสีขาวลงสู่สระด้านล่าง

11. Senjojiki Cirque

หิมะที่ยังหลงเหลืออยู่และเหล่าดอกไม้อัลไพน์ที่ Senjojiki Cirque

โรปเวย์ภูเขาแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ตอนกลางของญี่ปุ่น พานักท่องเที่ยวขึ้นไปเยือนด้านบนด้วยความสูงกว่า 2,600 เมตร เพื่อชม Senjojiki Cirque

อัฒจันทร์ธรรมชาติแห่งนี้เกิดขึ้นจากกัดเซาะของธารน้ำแข็งเป็นเวลาหลายพันปี ชื่อของ Senjojiki หมายถึงขนาดพื้นที่กว้างใหญ่มากจนสามารถปูเสื่อญี่ปุ่นได้ถึง 1,000 ผืน

ที่ระดับความสูงขนาดนี้ คุณสามารถเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งได้ตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ พื้นที่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ในฤดูร้อน ดอกไม้อัลไพน์หลากสีสันจะกระจายไปทั่วพื้นที่ ในฤดูใบไม้ร่วง พุ่มไม้เตี้ย ๆ จะเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีส้มร้อนแรง และในแต่ละช่วงของทุกปี คุณจะได้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ทางตอนใต้ของญี่ปุ่นที่อีกฝั่งนึงของหุบเขา Ina

ดูเพิ่มเติม

Senjojiki Cirque และ Komagane ในฤดูใบไม้ผลิ

12. เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route

Tateyama Ropeway

เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route ตัดผ่านภูเขาที่แบ่งแยกจังหวัด Nagano และ Toyama การเดินทางในเส้นทางนี้จะใช้เคเบิลคาร์, โรปเวย์, รถราง และรถประจำทาง ผู้โดยสารได้สัมผัสกับทัศนียภาพของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นอันน่าทึ่ง

เปิดตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน คุณสามารถเห็นกำแพงหิมะขนาดใหญ่ในฤดูใบไม้ผลิ ความเขียวขจีในฤดูร้อน และใบไม้สีแดงและสีเหลืองสดใสในฤดูใบไม้ร่วง

13. หมู่บ้านแห่งดวงดาว Achi

ท้องฟ้ายามค่ำคืนของ Achi เป็นที่ที่ดีสุดสำหรับการดูดาวในญี่ปุ่น

ทางตอนใต้สุดของจังหวัด Nagano มีหมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อ Achi ซึ่งแยกตัวออกจากเมืองไป ที่นี่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับความสงบเงียบของธรรมชาติในขณะที่มองดูดวงดาว เมื่อขึ้นลิฟต์ไปยังยอดเขาของสกีรีสอร์ต คุณจะได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่มองจาก หมู่บ้านแห่งดวงดาว Achi ได้

หากว่ายามค่ำใต้แสงดาวยังไม่เพียงพอสำหรับการพักผ่อนของคุณ พื้นที่นี้ยังขึ้นชื่อเรื่องบ่อออนเซ็นอีกด้วย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะพักค้างคืนกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน Hirugami Onsen ซึ่งคุณสมบัติของน้ำแร่ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องการช่วยฟื้นฟูร่างกาย

แม้จะห่างไกลจากตัวเมืองของ Nagano แต่ที่นี่อยู่ห่างจาก Nagoya เพียง 1 ชั่วโมง 40 นาทีโดยรถบัส

14. Obuse

ถนนเกาลัดที่ Obuse

เมือง Obuse ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Chikuma ระหว่างเมือง Suzaka และ Nakano ทางตอนเหนือของจังหวัด Nagano รอบล้อมไปด้วยพื้นที่เพาะปลูกอันอุดมสมบูรณ์ และอยู่ระหว่างวัด Zenkoji กับทะเลญี่ปุ่น ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางการค้าและการท่องเที่ยวมาช้านาน

หนึ่งในแขกที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของพื้นที่นี้ซึ่งเคยอาศัยอยู่เป็นเวลาหลายปีก็คือศิลปิน Katsushika Hokusai ผลงานของเขาเป็นงานศิลปะญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในต่างประเทศ (ดูเพิ่มเติม: "The Great Wave off Kanagawa")

พิพิธภัณฑ์ Hokusai ได้สร้างเพื่ออุทิศให้กับเขา มีการจัดแสดงผลงานมากมายที่เขาสร้างขึ้นในขณะที่อาศัยอยู่ที่นี่ และบริเวณรอบนอกของเมือง ที่วัด Gansho-in มีภาพวาดของเขาที่ได้รับการรักษาไว้อย่างดีที่สุดชิ้นหนึ่งอยู่

15. เส้นทาง Venus Line

เส้นทาง Venus Line ที่ลากผ่านที่ราบสูงตอนกลางของจังหวัด Nagano

เส้นทาง Venus Line ทอดยาวข้ามที่ราบสูงตอนกลางของจังหวัด Nagano พาคุณผ่านทะเลสาบที่เงียบสงบ ทุ่งกว้างใหญ่ และภูเขาสูงตระหง่านที่ระดับความสูงตั้งแต่ 1,500 ถึง 2,000 เมตร

ขับรถผ่านที่ราบสูงที่ปกคลุมไปด้วยดอกลิลลี่ ผ่านทุ่งหญ้าอันงดงามที่มีวัวกำลังแทะเล็มหญ้า จากนั้นก็หยุดรถเพื่อชมความแตกต่างระหว่างธรรมชาติและความงามที่มนุษย์สร้างขึ้นที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Utsukushigahara Open-Air Museum

ปืนสำหรับนกกระจอก OSAKA PUNCH ผลงานโดย Bernhard Luginbühl (พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Utsukushigahara Open-Air Museum)

การขับรถในญี่ปุ่นอาจดูน่ากลัวในตอนแรก แต่เป็นการเปิดมุมมองการท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไปเยือนชนบท หากคุณเลือกขับรถเองการเดินทางโดยใช้เส้นทาง Venus Line ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรพลาด

ดูเพิ่มเติม

การเช่ารถในจังหวัด Nagano ขับรถทัวร์รอบหลังคาของญี่ปุ่น 2 วัน

Update:2022/04/01

Recommended articles

Share this experience

LINE
Twitter
Facebook