ปีนสู่ยอดภูเขาไฟในนากาโน่

เมื่อขึ้นไปบนภูเขา Asama ภูเขา Yakedake หรือภูเขา Ontake คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ที่ต่างออกไปจากที่อื่นๆ

Update:2019/12/04

LINE Twitter Facebook

ความน่าตื่นเต้นของการปืนภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่จะช่วยดึงดูดความสนใจคุณได้ไหม? ใน Nagano ไม่ได้มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่เพียงแค่หนึ่งแห่งหรือสองแห่งเท่านั้น แต่มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ถึงสามแห่งและให้คุณสามารถปีนขึ้นไปเที่ยวได้

ปีนภูเขา Asama

ปล่องภูเขาไฟของภูเขา Asama ที่มองจากภูเขา Maekake

ภูเขา Asama ซึ่งมีความสูง 2,568 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัด Nagano สามารถมองเห็นได้จากหน้าต่างของรถไฟ Hokuriku Shinkansen ชื่อว่าขบวน Asama ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับภูเขา Asama

นอกจากปล่องภูเขา Asama ที่มองเห็นได้ในปัจจุบัน ยังมีปล่องภูเขาไฟเก่าที่สามารถมองเห็นได้อีก 2 แห่ง คือ ปล่องภูเขาไฟของภูเขา Maekake (2,524 เมตร) ซึ่งก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 900 ปีที่แล้ว อีกแห่งหนึ่งก็คือภูเขา Kurofu (2,404 เมตร) ซึ่งส่วนฐานได้พังทลายลงเมื่อประมาณ 25,000 ปีที่ผ่านมา

ปล่องภูเขาไฟในปัจจุบันถูกจำกัดไม่ให้เข้าไปใกล้เนื่องจากภูเขาไฟยังครุกรุ่นอยู่ ภูเขา Maekake จึงเป็นภูเขาไฟที่สามารถปีนขึ้นไปได้ใกล้ที่สุด ภูเขา Kurofu ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากยอดเขา แต่สามารถมองเห็นวิวที่ยอดเยี่ยมของภูเขา Asama ได้ เส้นทางปีนเขา 2 เส้นทางซึ่งเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีได้แก่ : เส้นทางที่ 1) จาก Asama Sanso/Tengu Onsen (1,410 เมตร) ไปยัง ภูเขา Maekake และเส้นทางที่ 2) จากช่องเขา Kurumazaka (1,973 เมตร) ไปยัง ภูเขา Kurofu สมัยก่อนต้องใช้เวลาไปกลับประมาณ 7 ชั่วโมง แต่ในปัจจุบันใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง

ที่หลบภัยฉุกเฉิน Kazankan อยู่ห่างจากทางขึ้นเขา Asama Sanso/Tengu Onsen ประมาณ 4 กิโลเมตร

ผ่านทุ่งหญ้า

ใกล้ถึงทางขึ้นสู่ปล่องภูเขาไฟ

น้ำพุร้อน Tengu Onsen ที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กจะช่วยให้การปีนเขาสิ้นสุดลงอย่างดีเยี่ยม

ก่อนออกเดินทางกรุณาตรวจสอบระดับความคุกรุ่นของภูเขาไฟในปัจจุบันให้ชัวร์ก่อนที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น(ภาษาอังกฤษ) ระดับ 1 อนุญาตให้เดินทางไปที่ภูเขา Maekake ได้ ระดับ 2 เข้าใกล้ได้ในระยะ 2 กิโลเมตร ของยอดเขา Sainokawara ระดับ 3 เขตควบคุมรัศมี 4 กิโลเมตร เข้าได้เฉพาะตรงเสาโทริอิที่ 1 จากทางขึ้นเขา Asama Sanso ส่วนเส้นทางปีนเขาจากช่องเขา Kurumazaka จะถูกปิดไม่ให้เข้า

การเดินทาง

ทั้ง Asama Sanso/Tengu Onsen และทางขึ้นเขาจากช่องเขา Kurumazaka ไปสู่ภูเขา Asama สามารถเข้าถึงได้โดยรถยนต์ ผ่านถนน ‘สาย Cherry Park’ (ถนนสาย 106 อำเภอ Komoro) ในส่วนของการขนส่งสาธารณะ JR มีรถบัสให้บริการวันละ 2 เที่ยวจากสถานี Sakudaira วิ่งผ่านใจกลางอำเภอ Komoro จอดที่ ‘Asamayama Tozanguchi’ ซึ่งห่างจาก Asama Sanso ประมาณ 4 กิโลเมตร และที่ราบสูง Takamine Kogen ที่ช่องเขา Kurumazaka (ข้อมูลเกี่ยวกับรถบัสในภาษาญี่ปุ่น)

ปีนภูเขา Yakedake

ภูเขา Yakedake เมื่อมองจาก Kamikochi

ภูเขา Yakedake ภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นแห่งเดียวในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ มีความสูง 2,455 เมตร เส้นทางปีนเขานี้สามารถไปเช้าเย็นกลับได้จาก Kamikochi ถือเป็นเส้นทางปีนเขาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแห่งหนึ่ง นักปีนเขาที่กล้าเสี่ยงจะได้ชมวิวของไอน้ำสีขาวที่ผุดขึ้นมาจากรอยแยกหลายแห่งรอบปล่องภูเขาไฟ การปีนเขาสู่ยอดเขา Yakedake ซึ่งใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง ถือเป็นเส้นทางปีนเขาที่นักปีนเขาจำนวนมากในประเทศญี่ปุ่น “ต้องมาเยือน”

เส้นทางหลัก 2 แห่งที่เข้าถึงได้จากยอดเขา: เส้นทางที่ 1) จาก Nakanoyu Onsen และเส้นทางที่ 2) จาก Kamikochi

Kamikochi เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในฐานะประตู่สู่เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ หุบเขาที่งดงามราวกับภาพวาดแห่งนี้ตั้งอยู่บนความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ขนานกับแม่น้ำ Azusa สีฟ้าอมเขียวที่ทอดยาว และเทือกเขา Hotaka ที่ตั้งตระหง่านด้วยความสูง 3,000 เมตร อยู่ด้านหลัง จากสถานีรถประจำทางหลัก เส้นทางเดินป่าไปยังภูเขา Yakedake จะต้องผ่านสะพาน Kappa สัญลักษณ์ของ Kamikochi ซึ่งตั้งชื่อตามพรายน้ำที่เชื่อกันว่าอาศัยอยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ จากสะพานคุณสามารถชมวิวที่งดงามของแม่น้ำและหุบเขาที่อยู่เหนือสะพานไป รวมทั้งเทือกเขา Hotaka ที่ยิ่งใหญ่ เส้นทางจะเลียบตามริมฝั่งแม่น้ำไปจนถึงรูปสลักหินเวสตั้น อนุสรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงมิชชันนารีชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามบิดาแห่งการปีนเขาในประเทศญี่ปุ่น

ก๊าซที่พุ่งขึ้นมาจากรอยแยกบนภูเขา

เมื่อผ่านสะพาน Tashiro เส้นทางจะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ พื้นดินที่ขรุขระพร้อมทั้งเชือกสำหรับยึดเกาะที่ชวนให้เวียนหัวและบันไดเหล็ก แต่เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาที่เต็มไปด้วยหิน คุณจะได้พบกับวิวพาโนราม่าที่น่าทึ่ง ของยอดเขาที่อยู่ในปล่องภูเขาไฟที่ร้อนระอุและทะเลสาบที่งดงาม

ทะเลสาบในหลุมปล่องภูเขาไฟของภูเขา Yakedake

การเดินทาง

โดยรถยนต์

ทางขึ้นเขาตรงน้ำพุร้อน Nakanoyu Onsen ใช้เวลาประมาณ 70 นาทีจาก Matsumoto IC บนทางด่วน Nagano Expressway ที่นี่มีลานจอดรถสำหรับรถยนต์ประมาณ 15 คัน อยู่ตรงทางขึ้นเขา (ดูรายละเอียดใน Google Maps ที่นี่)

ทางขึ้นเขา Kamikochi จะไม่สามารถเข้าถึงได้โดยรถยนต์ ให้จอดรถไว้ที่ลานจอดรถ Sawando และเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสเพื่อไป Kamikochi จากที่นี่

โดยรถบัส

การเดินทางสู่ทางขึ้นเขาทั้งสองแห่งสามารถใช้รถบัสสาย Kamikochi จากสถานี Shinshimashima ลานจอดรถ Sawando หรือ Hirayu Onsen ทางขึ้นเขา Nakanoyu Onsen จะใช้เวลาประมาณ 75นาที โดยการเดินเท้าจากป้ายจอดรถบัส Nakanoyu ทางขึ้นเขา Kamikochi จะใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยการเดินเท้าจากสะพาน Kappa

ปีนภูเขา Ontake

ปีนภูเขา Ontake

ที่ระดับความสูง 3,063 เมตร ภูเขา Ontake เป็นภูเขาไฟที่สูงเป็นอันดับ 2 ในประเทศญี่ปุ่นและยังเป็นหนึ่งในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในประเทศญี่ปุ่นด้วย บรรดานักพรตเคยเดินทางมาเยือนที่นี่เป็นเวลากว่าหลายศตวรรษเพื่อปีนเขาและบำเพ็ญเพียร ศาลเจ้าและอนุสาวรีย์หินที่ตั้งเรียงรายตามไหล่เขาเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ทางจิตวิญญาณของที่นี่

ภูเขา Ontake ได้เกิดการประทุครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในเดือนกันยายน ปี 2014 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 58 คน และยังคงสูญหายอีก 5 คน การประทุของภูเขาไฟได้สงบลงแล้วและตอนนี้เป็นภูเขาไฟที่อยู่ในสถานะการเตือนภัยระดับ 1 9 ปีหลังจากเกิดการประทุเส้นทางปีนเขาสู่ Kengamine จุดที่สูงที่สุดของยอดเขา Ontake ได้ถูกยกระดับความสูงให้สูงขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2023

เส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการขึ้นกระเช้าไฟฟ้า Ontake (เข้าถึงได้โดยรถบัส จาก Kiso Fukushima) ที่จะพาคุณขึ้นไปด้านบนที่ความสูง 2,150 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในส่วนของระยะทางที่เหลืออีก 900 เมตรบนความสูงจากระดับน้ำทะเลสู่ยอดเขา สามารถไปถึงได้โดยผ่านเส้นทางที่ทอดยาวเป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาไปกลับประมาณ 6 ชั่วโมง

กระเช้าไฟฟ้าที่ Ontake Ropeway

การเดินทาง

จากสถานี Kiso Fukushima ขึ้นรถบัส Ontake Ropeway Line เพื่อเดินทางไปยัง Ontake Ropeway (60 นาที) แต่รถบัสจะมีจำนวนจำกัด ขอแนะนำให้เดินทางด้วยรถยนต์

เพื่อความปลอดภัยในการปีนภูเขาไฟใน Nagano

ภูเขาไฟเป็นพลังธรรมชาติที่น่าเกรงขาม ดังนั้นการได้เห็นภูเขาไฟในระยะใกล้จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่ง แต่การปีนภูเขาไฟย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง ควรวางแผนปีนภูเขาไฟด้วยความระมัดระวัง เช่น :

1. ตรวจสอบระดับการเตือนภัยของภูเขาไฟในปัจจุบัน

ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่จะมีการสังเกตการณ์และอัพเดทข้อมูลลงบนเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (ดูการแจ้งเตือนภูเขาไฟที่นี่(ภาษาอังกฤษ)) หากภูเขาไฟมีการเคลื่อนไหวบางอย่าง จะมีการแจ้งระดับการเตือนภัยในบริเวณนั้น และบางส่วนของภูเขาอาจถูกปิดไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้า กรุณาตรวจสอบระดับการเตือนภัยของภูเขาไฟที่วางแผนจะปีนเขาอย่างสม่ำเสมอ และเตรียมความพร้อมหากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแผน

2. พกอุปกรณ์สำรองติดตัวไว้

ถึงแม้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้จะไม่มีการประทุของภูเขาไฟ แต่ภูเขาไฟก็อาจเกิดการประทุได้ทุกเมื่อ นอกจากอุปกรณ์เดินป่าแล้วขอแนะนำให้นำอุปกรณ์เหล่านี้ติดตัวมาด้วย : หมวกนิรภัยสำหรับปีนเขา หน้ากากกันฝุ่น แว่นตากันฝุ่น

3. ทำแผนการปีนเขาและส่งแผน

การทำแผนการปีนเขาพร้อมทั้งแชร์แผนของคุณกับคนในครอบครัวหรือคนที่คุณรักเป็นวิธีที่ดีสำหรับการเตรียมตัวปีนเขา หากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินระหว่างปีนเขาจะช่วยให้การค้นหาและให้ความช่วยเหลือทำได้ง่ายขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งแผนการปีนเขา ดูที่นี่(ภาษาอังกฤษ)

4. งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ห้ามเข้า

ไม่ว่าการเตือนภัยภูเขาไฟจะอยู่ในระดับใดก็ตาม กรุณางดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีเชือกกั้นไม่ให้เข้า พื้นที่บางแห่งอาจถูกห้ามไม่ให้เข้าด้วยเหตุผลบางอย่าง ก๊าซบางอย่างที่ออกมาจากภูเขาไฟอาจส่งผลกระทบต่อนักปีนเขา เช่น เวียนหัว หมดสติ หรือขาดอากาศหายใจ

บทสรุป

ภูเขาไฟทั้งสามแห่งนี้เป็นภูเขาไฟที่ค่อนข้างยากต่อการปีน แต่ไม่จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ทางเทคนิคใดๆ ระหว่างฤดูกาลปีนเขา สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือ รองเท้าที่เหมาะสม น้ำและอาหารที่เพียงพอ เนื่องจากสภาพอากาศบนภูเขาอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กรุณาเตรียมตัวให้พร้อม ถ้าหากคุณมีความพยายามและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี คุณก็สามารถปีนภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นของนากาโน่ได้

Share this experience

LINE
Twitter
Facebook