สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมรอบๆ อำเภอ Nagano
เที่ยวชมวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,400 ปี ศาลเจ้าเก่าแก่ และเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะรอบๆ อำเภอ Nagano
Update:2024/01/13
อำเภอ Nagano รายล้อมไปด้วยความงามตามธรรมชาติและเสน่ห์แบบชนบทที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติ ทุ่งนาที่อุดมสมบูรณ์ขนานกับแม่น้ำ Chikuma ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ถูกซ่อนเร้นในภูเขาขนาดใหญ่และเมืองอันเงียบสงบ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลนักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น—ที่นี่มีอะไรให้ชมมากมายจนเวลาอาจไม่เพียงพอ
เราขอแนะนำจุดที่น่าเที่ยวชมที่ได้รับความนิยมในอำเภอ Nagano บางส่วน: สมบัติประจำชาติวัด Zenkoji, ศาลเจ้า Togakushi, พิพิธภัณฑ์และคาเฟ่ในเมืองที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่าง Obuse และ Matsushiro เมืองปราสาทที่เงียบสงบ
สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมรอบๆ อำเภอ Nagano
วัด Zenkoji
วัด Zenkoji สร้างขึ้นเมื่อ 1,400 ปีที่แล้ว เป็นศูนย์กลางแห่งความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของประเทศญี่ปุ่นเขตทิศตะวันออก ตั้งอยู่บนเนินเขาในอำเภอ Nagano มีการแบ่งแยกจากโลกทางฆารวาสด้วยที่พักของนักบวช วัดขนาดเล็กและประตูไม้ที่น่าเกรงขาม ห้องโถงใหญ่ในวัด Zenkoji เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกอัญเชิญมาจากประเทศอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 7
กล่าวกันว่าผู้คนควรไปสักการะที่วัด Zenkoji ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต นักแสวงบุญจากทั่วประเทศญี่ปุ่นจะเดินทางมาที่นี่เพื่อสวดภาวนาและรู้แจ้งเห็นจริง บนประตู Niomon ที่อยู่ด้านนนอกวัด คุณจะเห็นรองเท้าฟางของนักเดินทางแสวงบุญผูกติดกับตาข่ายทั้งสองฝั่งของประตูทางเข้า
วิหารเก่าแก่ของวัด Zenkoji เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์แต่มักถูกมองข้ามจากผู้คนที่ไม่รู้ การทัวร์ชมวัดโดยไกด์นำเที่ยวที่มีความเชี่ยวชาญอาจทำให้คุณได้พบอะไรใหม่ๆ และประสบการณ์ที่มีความหมายมากขึ้น ที่ดีงามที่สุดคือ Bonsho-no-Kai มีบริการพาทัวร์เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน ฟรี! คุณสามารถติดต่อพวกเขาทาง อีเมล์หรือทางโทรศัพท์ (ดูรายละเอียดหน้านี้ในเว็บไซต์วัด Zenkoji)
เมือง Obuse
เมือง Obuse ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Chikuma มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านการค้าขายและกสิกรรม ล้อมรอบด้วยสวนเกาลัด สวนแอปเปิ้ล นาข้าวและคุระ (โกดังเก็บของข้างฝาทำด้วยดิน) รวมทั้งคาเฟ่เก๋ๆ และร้านอาหาร
พิพิธภัณฑ์ Hokusai และวัด Gansho-in เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากใน Obuse Katsushika Hokusai ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน “คลื่นยักษ์นอกฝั่งคานางาวะ” ใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายที่ Obuse เป็นเวลาหลายปี และพิพิธภัณฑ์ Hokusai ก็ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา วัด Gansho-in มีผลงานที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยสีสันมากที่สุดของ Hokusai นั่นก็คือ “Happo Nirami Ho’oh-zu”
หลังจากลองชิมเหล้าสาเกแล้ว ขอแนะนำให้ทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารที่ไหนซักแห่งใน Obuse โซบะ (เส้นโซบะทำจากแป้งบัควีต)เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อในแถบจังหวัด Nagano และ Obuse ร้าน Tomikuraya เป็นร้านที่อยากแนะนำให้ลองชิม Kurumi โซบะ (โซบะเย็นที่เสิร์ฟพร้อมถั่ววอลนัทบด) หากคุณต้องการชิมอาหารจานพิเศษของ Obuse ขอแนะนำให้ไปที่ร้าน Sakurai Kanseido Sensekitei เพื่อชิม Kuri Okowa (ข้าวอบเกาลัด) สำหรับของหวาน ขอแนะนำร้าน Patisserie Rond-to หรือ คาเฟ่ Sakura เพื่อชิมขนมหวานที่ทำจากเกาลัด และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเหล้าสาเกหลายแห่ง : Matsubaya และ Masuichi
การเดินทางไปยัง Obuse
จากสถานี Nagano ขึ้นรถไฟธรรมดาหรือรถไฟด่วนสาย Nagano Dentetsu Line ไปยังสถานี Obuse (25 - 35 นาที) จากสถานีรถไฟถึงใจกลางเมืองใช้เวลาเดิน 7 นาที
Togakushi
ที่ราบสูง Togakushi ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยป่า เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าชินโตทั้ง 5 แห่งซึ่งสามารถพบได้ในตำนานปรัมปราของญี่ปุ่น : ภูเขา Togakushi เป็นที่มาของชื่อพื้นที่แห่งนี้ กล่าวกันว่ามีซากประตูหินขนาดใหญ่ที่เทพีแห่งดวงอาทิตย์อามาเตราซุใช้ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง หลังจากที่เกิดความบาดหมางกับน้องชาย หลักจากที่พบเทพธิดาแล้วประตูก็ถูกโยนขึ้นไปบนท้องฟ้าและตกลงสู่จังหวัด Nagano ในปัจจุบัน แม้ในปัจจุบัน บริเวณรอบๆ ภูเขาก็ยังคงมีคำเล่าลือเกี่ยวกับเรื่องพลังแห่งจิตวิญญาณ
ศาลเจ้า Okusha ตั้งอยู่ที่เชิงเขา สามารถเดินไปถึงได้โดยเดินผ่านป่า Togakushi ใช้เวลา 30 – 40 นาที ทางเดินกว้างขวาง ถนนค่อนข้างเรียบ มีวัตถุโบราณหลงเหลือให้เห็นมากมาย เช่น ศาลเจ้าขนาดเล็กที่ทำจากหิน อนุสรณ์ต่างๆ ที่ถูกปกคลุมด้วยมอส และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกทำสัญลักษณ์ด้วยเชือก shimenawa
ครึ่งทางของทางเดินแห่งนี้จะมีประตู Zuishinmon ที่ถูกทาด้วยสีแดงสดตัดกับป่าไม้ที่เขียวขจี แนวต้นสนซีดาร์อายุกว่า 400 ปีที่ทอดยาวเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในทางเดินแห่งนี้ เมื่อเดินต่อไปอีก 15 นาทีคุณก็จะถึงศาลเจ้า Kuzuryu และศาลเจ้า Okusha สวดขอพรพร้อมจ้องมองไปยังภูเขา Togakushi ที่อยู่เบื้องหน้า
การเดินเท้าไปยังศาลเจ้า Okusha แบบไปกลับใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง – 1 ชั่วโมง 20 นาที มีทางเดินอื่นๆ อีกหลายทางที่เป็นทางผ่านศาลเจ้าหากเดินไปไกลอีกหน่อยคุณจะสามารถไปยังบึง Kagami และวกกลับมาได้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย สามารถเดินไปตามเส้นทาง Togakushi Kodo ซึ่งเป็นทางเชื่อมศาลเจ้าทั้ง 5 แห่งของ Togakushi เข้าด้วยกัน
การเดินทางไปยัง Togakushi
จากสถานี Nagano ขึ้นรถบัสสาย Togakushi ที่ป้ายจอดรถบัส No. 7 ไปลงที่ป้ายจอดรถบัส Togakushi Okusha (ประมาณ 70 นาที)
Matsushiro
เมือง Matsushiro อันเงียบสงบเคยเป็นเมืองปราสาทในยุค Edo ครอบคลุมพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในเขตการปกครองของแคว้น Shinano (จังหวัด Nagano) ในยุคที่รุ่งเรืองที่สุดเขตการปกครองแห่งนี้ผลิตข้าวได้ถึง 15,000 ตันต่อปี—เพียงพอที่จะเลี้ยงคนได้ 100,000 คน ปัจจุบันประวัติศาสตร์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ทั้งที่คฤหาสน์ Sanada โรงเรียนบุนบุ และกำแพงปราสาทเก่าแก่ใจกลางเมือง (เป็นสถานที่ชมดอกซากุระที่ได้รับความนิยมในฤดูใบไม้ผลิ)
น้ำพุร้อน Matsushiro มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ฟองของน้ำแร่ใสที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงเนื่องจากปฏิกิริยาออกซิเดชันเมื่อสัมผัสกับอากาศ ธาตุเหล็กจะทำให้ร่างกายของคุณอบอุ่นจากภายนอกสู่ภายใน—เหมาะแก่วันที่หนาวเหน็บในฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาว
การเดินทาง ไปยัง Matsushiro
จากสถานี Nagano ขึ้นรถบัส สาย Matsushiro ไปลงที่ป้ายจอดรถบัส Matsushiro Eki (35 นาที) แล้วเดินจากป้ายจอดรถบัสไปยังศูนย์ประวัติศาสตร์ของเมืองอีก 5 นาที
บทสรุป
อำเภอ Nagano มีชื่อเสียงมากเนื่องจากเป็นที่ตั้งของวัด Zenkoji แต่นอกจากใจกลางเมืองแล้ว ยังมีจุดที่น่าเที่ยวชมทาง ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอีกมากมาย ตั้งแต่ต้นสนซีดาร์สูงตระหง่านที่ Togakushi ไปจนถึงผลงานศิลปะที่น่าทึ่งของ Hokusai ที่ Obuse หรือจะเดินไปถึงทุ่งนาที่อยู่ไกลออกไปอีกหน่อยเพื่อเพลิดเพลินกับบริเวณรอบๆ ก็ได้