การเดินทางรอบเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นโดยรถบัส
ธรรมชาติที่สวยงามและเมืองโบราณนั้นซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาสูง 3,000 เมตรของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น มาสำรวจเส้นทางเดินป่า ออนเซ็น และเมืองปราสาทด้วยการเดินทาง 3 วันผ่านใจกลางญี่ปุ่นกัน
Update:2019/12/17
เทือกเขา Hida พาดผ่านพรมแดนของจังหวัด Toyama, Gifu, Nagano และ Niigata หรือที่เรียกว่าเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นทางตอนเหนือซึ่งเทือกเขาเหล่านี้มีความสูงถึง 3,000 เมตร
อุปสรรคทางธรรมชาติที่สูงชันเหล่านี้ได้แยกศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ของญี่ปุ่นออกเป็นเมืองต่าง ๆ เช่น Kyoto และ Edo จึงทำให้มีการพัฒนาของวัฒนธรรมและชุมชนในชนบทให้มีความเป็นเอกลักษณ์ ที่แม้ในปัจจุบันก็ยังสามารถเห็นหมู่บ้านเกษตรกรรมเล็ก ๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ในหุบเขาสูงชันและย่านการค้าเก่าแก่ที่ยังคงรักษาบรรยากาศแบบสมัย Edo เอาไว้ได้อยู่
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเช่นปราสาท Matsumoto, เมือง Takayama และ Shirakawa-go ล้วนอยู่ไม่ไกลจากเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น และใครจะอยากพลาดไปชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาจาก Kamikochi และภูเขา Norikura กันล่ะ?
ลองใช้เวลา 3 วันในการเดินทางไปยังเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่นเพื่อเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดที่เราเสนอให้ดูกัน
หัวข้อสถานที่ท่องเที่ยว
วันที่ 1: Matsumoto, Kamikochi และ Shirahone
วันที่ 2: Norikura Kogen และ Takayama
วันที่ 3: Takayama และ Shirakawa-go
การเดินทางรอบ ๆ เทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น
วันที่ 1: Matsumoto, Kamikochi และ Shirahone
เมือง Matsumoto
เมือง Matsumoto ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัด Nagano มีชื่อเสียงในเรื่อง ปราสาท Matsumoto ซึ่งเป็น 1 ในปราสาทสมบัติประจำชาติ 5 แห่งในญี่ปุ่นที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และการตัดกันของสีดำและสีขาวของปราสาทอันน่าทึ่ง
ริมแม่น้ำทางตอนใต้ของปราสาทมีถนนหลายสายที่ยังคงรักษาบรรยากาศของช่วงเวลาสมัยก่อนเช่น Nakamise-dori ที่ย้อนให้เห็นถึงยุคสมัย Showa ที่บางครั้งเรียกว่า "ถนนกบ" และ Nakamachi-dori ที่มีลักษณะคล้ายสมัย Edo ซึ่งเรียงรายไปด้วยโกดังกำแพงดินสีขาวเป็นแถวเป็นแนวนั้นมีร้านขายของที่ระลึกมากมายที่ขายงานฝีมือในแบบของเมือง Matsumoto รวมถึงร้านกาแฟและเบเกอรี่ที่มีสไตล์ซึ่งสามารถพักผ่อนและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ได้
ก่อนที่จะมุ่งหน้าออกไปเยี่ยมชมผลงานศิลปะที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Matsumoto City Museum of Art ที่มีนิทรรศการผลงานของนักออกแบบศิลปะ Yayoi Kusama ที่มีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองนี้ คุณจะเห็นลายจุดที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอหลายแห่งทั่วเมือง ทั้งบนดอกไม้ บนโปสเตอร์ และแม้แต่บนรถประจำทางของเมือง
หากคุณชื่นชอบภาพพิมพ์ที่แม่พิมพ์แกะจากไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นคุณอาจต้องการไปชม พิพิธภัณฑ์ภาพ Ukiyo-e แห่งญี่ปุ่น (Japan Ukiyo-e Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานภาพพิมพ์ Ukiyo-e ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพียงชุดเดียวซึ่งนิทรรศการเป็นที่ยอมรับน้อยมากได้นี่นี่
เดินทางไปอุทยานแห่งชาติ Kamikochi จากเมือง Matsumoto
หลังจากเข้าชมปราสาทและวัฒนธรรมของเมืองที่สร้างสรรค์ที่สุดของจังหวัด Nagano แล้วมาเริ่มการผจญภัยของคุณที่ใจกลางเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่นกันต่อ
โดยให้นั่งรถไฟสาย Kamikochi จากสถานี Matusmoto ไปยังสถานี Shinshimashima แล้วแล้วจากสถานีให้ขึ้นรถบัส สาย Kamikochi เพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติ Kamikochi
อุทยานแห่งชาติ Kamikochi
Kamikochi เป็นแอ่งน้ำสูง 1,500 เมตรตั้งอยู่เชิงเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น ซึ่งทิวทัศน์ของภูเขา Hotaka จากสะพาน Kappa นั้นเหมือนมีสีเขียวขจี, สีน้ำเงินซีรูเลียนและสีขาววาววับเป็นภาพที่น่าทึ่งเหมือนอยู่บนจานสีน้ำ
แอ่งเรียบที่เดินได้ง่ายทำให้ผู้คนส่วนใหญ่สามารถเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลายของอุทยานแห่งชาติ Chubu Sangaku ซึ่งความยาวเส้นทางรอบอุทยานที่สามารถเดินได้เริ่มต้นที่ประมาณ 1 ชั่วโมงและถึงเส้นทางที่สามารถได้นานถึง 5 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับว่าต้องการจะเดินไปไกลแค่ไหน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางปีนเขาจำนวนมากที่ไปยังยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ซึ่งมีเส้นทางที่สามารถไปได้ตั้งแต่แบบวันเดียวกลับไปจนถึงการเดินป่าแบบหลายวัน
จุดชมวิวที่สวยงามที่สุดบางแห่งในอุทยานแห่งชาติ Kamikochi ได้แก่ บึง Taisho, สะพาน Kappa, บึง Myojin และ บึง Dakesawa นั้นสามารถเริ่มต้นเดินจากบึง Taisho ก่อนและวนรอบบึงทั้งหมดในเวลาประมาณ 4 ถึง 4.5 ชั่วโมง
หลังจากเพลิดเพลินกับการเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ Kamikochi แล้วสามารถเข้าพักใน Shirahone Onsen ที่อยู่ใกล้เคียงได้
เดินทางจากอุทยานแห่งชาติ Kamikochi ไปยัง Shirahone
มีรถบัสตรงไปยัง Shirahone จากอุทยานแห่งชาติ Kamikochi ทุกวันวันละ 1 เที่ยวที่ออกรถในเวลา 15.35 น. ถึง Shirahone เวลา 16.19 น. หากต้องการไปถึง Shirahone ในเวลาอื่นให้ใช้เส้นทางรถบัสสาย Shinshimashima—Kamikochi ไป Oyakidaki จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถบัสสาย Shirahone
พักที่ Shirahone Onsen
Shirahone Onsen หรือ "ออนเซ็นกระดูกขาว" เป็นพื้นที่ออนเซ็นที่เงียบสงบซึ่งขึ้นชื่อเรื่องน้ำออนเซ็นสีฟ้าน้ำนมที่มีคุณสมบัติในการบำบัดที่ทรงพลังที่มีคนบอกว่าถ้าแช่น้ำพุที่นี่สัก 3 วันจะไม่เป็นหวัดตลอดทั้งปี
มีโรงแรมบ่อออนเซ็นและเรียวกังแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมหลายแห่งที่สามารถมาพักผ่อนได้อย่างสบายตลอดทั้งคืน ซึ่งโรงแรมยอดนิยมที่มีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและน้ำที่มีคุณสมบัติบำบัดจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและสร้างความกระปรี้กระเปร่าได้แก่: Shirafune Grand Hotel, Yumoto Saito Ryokan, Awa no Yu และ Sansuikan Yugawaso.
บ่อออนเซ็นบำบัดเรียกว่า Touji ครั้งหนึ่งเคยเป็นวิธีการรักษาที่พบบ่อยสำหรับผู้ที่มีความเจ็บป่วยที่หลากหลาย ซึ่งผู้ป่วยจะอาบน้ำและแม้กระทั่งดื่มออนเซ็นด้วยซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนทั้งจากภายในและภายนอก นี่เป็นประสบการณ์ที่แท้จริงของบ่อออนเซ็นของญี่ปุ่นแล้วทำไมไม่ลองทำเช่นเดียวกันดูหล่ะ? ซึ่งคุณสามารถดื่มออนเซ็นสดจากน้ำพุหลายแห่งรอบ Shirahone และเรียวกังที่นี่ยังเตรียมอาหารโดยใช้น้ำแร่ที่อุดมด้วยแร่ธาตุของ Shirahone ซึ่งอร่อยมากเลย!
วันที่ 2: Norikura และ Takayama
ในตอนเช้าให้นั่งรถบัสสาย Kamikochi—Norikura—Shirahone จาก Shirahone ไปยัง Norikura Kogen Tourism Information Center
ที่ราบสูง Norikura Kogen
Norikura Kogen เป็นพื้นที่ราบสูงของฐานภูเขา Norikura ซึ่งไม่ไกลจาก Shirahone และอุทยานแห่งชาติ Kamikochi
ยอดเขาที่สูงที่สุดของ Norikura กับ Kengamine มีความสูง 3,206 เมตรและเป็นภูเขาที่สูงที่สุดอันดับที่ 19 ในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ปีนเขาที่ง่ายที่สุดในประเทศที่มีผู้ที่มาปีนนับ 3 พันคนเนื่องจากรถบัสสาย Tatamidaira พาคุณขึ้นไปที่ระดับความสูง 2,716 เมตร จาก Tatamidaira คุณสามารถเดินป่าไป - กลับสู่จุดสูงสุดได้ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางมากมายในที่ราบสูงด้านล่างภูเขา Norikura ซึ่งจาก Norikura Information Center สามารถเดินสำรวจน้ำตกและบึงหลายแห่งในพื้นที่ได้โดยน้ำตก Zengoro เป็นน้ำตกที่มีความสูง 21.5 เมตรและกว้าง 8 เมตรอยู่ห่างจากใจกลางโดยใช้เวลาเดินเพียง 30 นาที (ชมน้ำตก Zengoro ในฤดูหนาว)
เส้นทางนี้ได้รับการดูแลอย่างดีด้วยสะพานไม้หลายแห่งที่ทอดข้ามแม่น้ำและมีทางบันไดบนขึ้นไปในเส้นทางที่สูงชัน และเดินทางต่อไปยังบ่อ Ushidome และ Azami เส้นทางนี้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงโดยจะสิ้นสุดที่ Norikura tourism center
เดินทางไป Takayama จาก Norikura
วีธีการเดินทางไปยัง Takayama จาก Norikura มีอยู่ 2 วิธี
วิธีที่ 1: จาก Norikura Kogen Tourism Center ขึ้นรถบัส Norikura ไปยัง Shinshimashima / Kamikochi และลงที่ Oyako-daki จากนั้นข้ามถนนและขึ้นรถบัสคันถัดไปที่มุ่งหน้าไปยัง Takayama
วิธีที่ 2: จาก Tatamidaira นั่งรถบัส Norikura—Hirayu bus ไปที่ Honoki Daira จากนั้นเปลี่ยนเป็นบัส Shinhotaka—Takayama bus เพื่อมุ่งหน้าสู่ Takayama
Takayama
Takayama ตั้งอยู่ในจังหวัด Gifu ในปัจจุบันนั้นอยู่ทางตะวันตกของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ด้วยไม้ที่อุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ Takayama จึงประสบความสำเร็จในงานไม้และมีชื่อเสียงไปทั่วญี่ปุ่นในด้านช่างฝีมือและผลิตภัณฑ์ที่หรูหรา ซึ่งตอนนี้ที่แห่งนี้ยังสามารถเห็นทิวทัศน์ของเมืองเก่าสมัย Edo ของ Takayama ได้ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำ Miyagawa ที่มีร้านค้าและโรงกลั่นเหล้าสาเกจำนวนมากอยู่ในปัจจุบัน
เทศกาล Takayama (จัดขึ้นในเดือนเมษายนและตุลาคม) เป็น 1 ในเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งมีการแห่รถไม้อย่างโอ่อ่าไปตามถนนในย่านเมืองเก่า มีการแสดงงานฝีมือที่ไร้ที่ติของช่างไม้ Takayama และรถลากที่แห่ขบวนบางส่วนมีการตกแต่งด้วยหุ่นกลที่เรียกว่า Karakuri Ningyou ซึ่งคุณสามารถชมการแสดงในช่วงเทศกาลได้
หากไม่ได้เข้าชมในช่วงเทศกาลสามารถเห็นรถลากที่ไว้แห่ขบวนบางส่วนได้ที่ ห้องจัดแสดง Yatai Kaikan ถัดจากศาลเจ้า Sakurayama Hachiman
พักที่ Takayama
มีเรียวกังและโรงแรมสไตล์ตะวันตกหลายแห่งรอบเมือง Takayama และเมืองเก่าให้เลือก ซึ่งสามารถชมข้อมูลเรียวกังและโรงแรมแนะนำมากที่สุดของ Takayama ได้ที่นี่
หากคุณต้องการประสบการณ์แบบญี่ปุ่นเต็มรูปแบบด้วยอาหาร Kaiseki แสนอร่อยและการแช่ออนเซ็นเราขอแนะนำให้ไปพักที่ Hanaougi Bettei Iiyama ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดเล็กที่สะดวกสบายและหรูหราอยู่นอกเมือง การตกแต่งภายในชวนให้นึกถึงบ้านในชนบทของญี่ปุ่นด้วยคานไม้, พื้นเสื่อ Tatami และเตา Irori แบบดั้งเดิม ส่วนห้องพักแต่ละห้องมีการออกแบบที่คล้ายคลึงกันและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เช่น ทีวี, Wifi และเตียงนอนที่นุ่มที่ยกระดับสูงจากพื้น แน่นอนว่าอาหารค่ำเป็นเมนูที่มีเนื้อ Hida ที่มีชื่อเสียงของพื้นที่
วันที่ 3: Takayama และหมู่บ้านมรดกโลก Shirakawa-go
นั่งรถรับส่งตอนเช้าไปยัง Takayama Bus Terminal และจากนั้นขึ้นรถ รถบัสที่ไป Shirakawa-go ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
หมู่บ้านมรดกโลก Shirakawa-go
Shirakawa-go เป็นแหล่งมรดกโลกของ Unesco ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างง่ายดายด้วยบ้านทรงสูงที่มีหลังคามุงจากรูปแบบนี้เรียกว่า Gassho-zukuri ในภาษาญี่ปุ่นกล่าวว่าคล้ายกับมือของพระสงฆ์เวลาอธิษฐาน หินที่สูงชันมีความสำคัญในภูมิภาค Hida เนื่องจากมีหิมะตกหนักในฤดูหนาว
บ้าน Gassho-zukuri หลายหลังที่ยังคงอยู่ในหมู่บ้านชนบทแห่งนี้ยังมีคนในท้องถิ่นอาศัยอยู่นั้นยังมีบ้านบางหลังซึ่งถูกทิ้งร้างที่ปัจจุบันเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในฐานะพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมภายในตัวบ้านได้ (ชม Wada House, Nagase House และ Kanda House) คุณจะได้เห็นของตกแต่งของบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเช่นเตา Irori และแท่นบูชาพระ รวมถึงการสร้างบ้านด้วยตัวเองได้ ซึ่งภายในมีโครงสร้างสูงสามารถแบ่งใช้สอยได้ 3 ชั้นโดยที่ชั้น 2 และ 3 มักใช้ในการเพาะเลี้ยงหนอนไหม
ทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของหมู่บ้านชมได้จากจุดชมวิวบนสันเขาที่อยู่ใกล้ ๆ มีรถรับส่งจากตัวเมืองเป็นประจำ อีกทั้งยังสามารถเดินขึ้นเองได้หากต้องการออกกำลังกายสักหน่อย (20 นาทีจาก Shirakawa-go Bus Terminal)
พิพิธภัณฑ์มรดก Minka-en มีบ้านแบบ Gassho-zukuri จำนวนมากที่ถูกทิ้งร้างและย้ายถิ่นฐานโดยจัดแสดงหมู่บ้านดั้งเดิมจากยุคอดีตที่สามารถเดินเข้าไปในบ้านทั้งหมดและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการก่อสร้าง, วิธีการใช้งานและวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านเหล่านี้ได้
จาก Shirakawa-go เป็นต้นไป
รอบ ๆ เทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่นมีหมู่บ้านโบราณ, แอ่งน้ำอันงดงามและที่ราบสูงให้สำรวจมากมาย และด้วยทำเลที่ตั้งใกล้ศูนย์กลางของญี่ปุ่นทำให้ที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอื่น ๆ อีกมากมายอย่าง Kanazawa และ Toyama อยู่ห่างจาก Shirakawa-go และ Takayama เพียงแค่นั่งรถบัสไปและ เมืองโบราณของ Nakasendo และ Daio Wasabi Farm อยู่ห่างจากเมือง Matsumoto เพียงแค่นั่งรถไฟจากสวนลิง Jigokudani Yaen-Koen ที่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่าต้องการเห็นอะไรในระหว่างการเที่ยวซึ่งสามารถเดินทางจากเมือง Matsumoto ไปยัง Takayama หรือทางอื่น ๆ ได้
การเดินทางรอบ ๆ เทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น
รถไฟและรถบัส
เมือง Matsumoto และ Takayama เป็นประตูสู่เทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น การเข้าถึงเทือกเขาแอลป์ครอบคลุมโดยบริษัทรถบัส Alpico และ Nohi ตลอดจนรถไฟสาย Kamikochi ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างสถานี Matsumoto และสถานี Shinshimashima
สามารถดูตารางเวลาของรถบัสแต่ละสายได้ที่ลิงค์ด้านล่าง
รถประจำทางและรถไฟรอบเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น
1. รถไฟ Kamikochi (ตรวจสอบตารางเวลาผ่าน Hyperdia)
2. รถบัส Shinshimashima—Kamikochi
3. รถบัส Matsumoto—Hirayu-Takayama
4. รถบัส Shinshimashima—Norikura
5. รถบัส Shinshimashima—Shirahone Onsen
6. รถบัส Norikura—Tatamidaira
7. รถบัส Tatamidaira—Honoki Daira
8. รถบัส Takayama Bus Center—Hirayu Onsen–Shin-hotaka Ropeway
9. รถบัส Takayama—Shirakawa-go
10. รถบัส Hirayu—Kamikochi
11. รถบัส Asama Onsen Bus (ตารางเวลาเป็นภาษาญี่ปุ่น)
12. รถบัส Utuskushigahara Onsen Bus (ตารางเวลาเป็นภาษาญี่ปุ่น)
บัตร Alps Wide Free Passport
Alps Wide Free Passport ครอบคลุมรถโดยสารทั้งหมดที่รวมอยู่ในแผนที่การเดินทางด้านบนเป็นระยะเวลา 4 วันติดต่อกัน หากคุณวางแผนที่จะใช้เวลาหลายวันรอบ ๆ บริเวณเทือกเขาแอลป์ เช่น Kamikochi, Takayama, Matsumoto และ Shirakawa-go บัตรนี้อาจเป็นประโยชน์กับคุณ
และนอกจากบัตรผ่าน 4 วันแบบธรรมดาแล้วยังมีตั๋วแบบ 4 วันที่รวมค่าโดยสารไป - กลับของ Shin-hotaka Ropeway อีกด้วย
ราคา
ประเภทพาส | 4 วัน | 4 วัน + Shin-hotaka Ropeway | ||
---|---|---|---|---|
ฤดูกาล | เม.ย. - พ.ย. | ธ.ค. - มี.ค. | เม.ย. - พ.ย. | ธ.ค. - มี.ค. |
ผู้ใหญ่ | 10,290 | 8,800 | 12,000 | 9,800 |
เด็ก | 5,150 | 4,400 | 6,000 | 4,900 |
เดินทางโดยรถยนต์
ผู้ที่มีรถยนต์ควรทราบว่ามีการจำกัดการเดินทางเข้า Kamikochi และ Norikura หากคุณกำลังวางแผนจะไปเที่ยว Kamikochi ให้จอดรถไว้ที่สถานีขนส่ง Sawando แล้วขึ้นรถบัสจากที่นั่นไปยังอุทยาน หากวางแผนจะไปเที่ยว Tatamidaira ที่ด้านบนสุดของ Norikura สามารถจอดรถไว้ที่ Norikura Kogen Tourism Information Center แล้วขึ้นรถบัสจากที่นั่น